ลดปวดไมเกรนด้วย Shockwave?

ทำไม Shockwave ถึงช่วยลดปวดไมเกรน?

อาการปวดศีรษะไมเกรน หลายคนอาจจะเข้าใจว่า เกิดจากความผิดปกติของสมองเท่านั้น แต่จริงๆแล้วแม้แต่ปัจจัยภายนอก อย่างอาการปวดตึง ค่อบ่าไหล่ หรือออฟฟิศซินโดรม ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด “ไมเกรน” ได้อีกด้วย

สาเหตุและอาการปวดหัวออฟฟิศซินโดรม

ปวดหัวออฟฟิศซินโดรม เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณบ่าตึง เลือดจึงไม่สามารถไหลไปเลี้ยงส่วนศีรษะได้ เมื่อศีรษะขาดเลือดและออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงก็จะทำให้ปวดศีรษะ แต่ถ้าหมั่นยืดกล้ามเนื้อบริเวณบ่าและคออย่างสม่ำเสมอ อาการปวดก็จะทุเลาลงได้ โดยอาการจะปวดศีรษะร้าวลงสะบัก อาจจะปวดข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้

แต่สำหรับบางรายที่มีอาการปวดหัวไมเกรน ซึ่งจะปวดศีรษะข้างเดียว สาเหตุเกิดจากความผิดปกติชั่วคราวของระดับสารเคมีในสมอง ทำให้ก้านสมองถูกกระตุ้น หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองมีการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ เกิดอาการปวดหัวตุ๊บ ๆ หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน แพ้แสง จากก้านสมองที่ถูกกระตุ้น

สิ่งกระตุ้นไมเกรนอาจได้แก่ 

1. แสงไฟสว่าง แสงไฟกระพริบ หรือแสงแดดที่จ้า

2. อากาศที่ร้อนเกินไป หรืออากาศที่ร้อนชื้น เช่น ช่วงเวลาก่อนฝนจะตก

3. ออฟฟิศซินโดรม หรือ โรคพังผืดของกล้ามเนื้อที่เกิดจากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ หรือใช้มือถือ ก้มหน้านาน ๆ จนกล้ามเนื้อเกิดพังผืดขึ้น รวมถึงอาการกล้ามเนื้อบริเวณคอตึง ก็สามารถกระตุ้นทำให้เกิดไมเกรน ปวดร้าวรอบกระบอกตา คลื่นไส้มึนหัวได้

4. อาหารที่สามารถกระตุ้นไมเกรน ได้ เช่น ชีส แอลกอฮอล์ ผงชูรส อาหารที่ผสมไนไตรท์ เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน น้ำตาลเทียม นอกจากนี้ ยังพบว่า คาเฟอีน ถือเป็นสารที่กระตุ้นอาการไมเกรนได้ ใครที่กินกาแฟอยู่แล้วมีอาการไมเกรน ควรลดปริมาณการกินกาแฟลง อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยเพียง 20% เท่านั้น ที่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าอาหารเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดไมเกรน

5. ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการอดนอน

6. ฮอร์โมนเอสโตรเจน : อาการปวดหัวไมเกรน มักถูกกระตุ้นเมื่อฮอร์โมนเอสโตรเจนลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว เรียกว่า “อาการปวดหัวไมเกรน ตอนเป็นประจำเดือน” (menstrual migraine)

7. ช่วงเวลาภายหลังจากคลอดบุตร : ในช่วงตั้งครรภ์ ความถี่ของการปวดไมเกรนจะลดลง แต่หลังจากคลอดลูกแล้ว พบว่าความถี่ของการปวดไมเกรนจะสูงขึ้น เพราะช่วงตั้งครรภ์อยู่นั้น ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะขึ้นสูงเรื่อย ๆ และมาต่ำลงหลังที่คลอดบุตร จึงไปกระตุ้นอาการไมเกรน

รักษาไมเกรนได้ด้วยกายภาพบำบัด หรือ Shockwave 

อาการปวดศีรษะไมเกรนสามารถบำบัดได้ด้วยวิธีทางกายภาพบำบัด เพื่อบรรเทาอาการปวดให้ลดน้อยลง โดยใช้เครื่องมือทางกายภาพที่ทันสมัย อย่างเช่น การบำบัดอาการปวดด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy) เพื่อบริหารกล้ามเนื้อคอและบ่า โดยกระตุ้นให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อที่กระจุกกันเป็นสาเหตุของอาการปวด เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยไมเกรนส่วนใหญ่กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ทั้งสองข้างมีอาการเกร็ง การรักษานี้จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลาย และลดอาการปวดศีรษะได้ โดยไม่จำเป็นต้องทานยา แต่ในการรักษาต้องมีความต่อเนื่อง ระยะเวลาในการรักษาก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการปวด

การรักษาไมเกรนให้ได้ผลดี ผู้ป่วยจะต้องทราบถึงสาเหตุที่ทำให้ปวดศีรษะ เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นเหล่านั้นด้วย และสามารถทำกายภาพบำบัดร่วมกับการรักษาของแพทย์ได้

ที่มา : สรีรารัก คลินิกกายภาพบำบัด & Rattinan Medical Center

  • แชร์

แพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง